Coco : สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู หรือไม่คิดจะไปดู

ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้เหลือ 3 พยางค์ จะสรุปว่า
 
จง-ไป-ดู
 
ต่อจากนี้คือแบบยาว ๆ


 
Pixar เคยชูประเด็นครอบครัวใน Finding Nemo
Pixar เคยพูดถึงการจากลาใน Up, Toy Story 3, The Good Dinosaur
Pixar เคยใช้วัฒนธรรมมาเป็นตัวดำเนินเรื่องใน Ratatouille
ส่วนเพลง… มีเพียง Brave ที่ตัวละครได้ร้องเพลงจริงจัง กระนั้น เพลงก็ยังไม่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของพล็อตหลักอยู่ดี
 
มี Coco นี่แหละ ที่เป็นอนิเมชัน Pixar เรื่องแรกที่ใช้เพลงมาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเรื่อง ทั้งยังนำประเพณี ‘วันแห่งความตาย’ ของชาวเม็กซิกันและวัฒนธรรมต่าง ๆ มาถ่ายทอดได้อย่างสวยสดงดงามทั้งยังเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง
 
Coco เล่าเรื่องราวของเด็กชายวัย 12 ขวบซึ่งเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ที่ปฏิเสธดนตรีในบ้าน แต่ด้วยหัวใจเรียกร้อง เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ตามรอยไอดอลในดวงใจ ในช่วงเทศกาลวันแห่งความตาย ชาวเม็กซิกันเชื่อว่าวันนี้เป็นวันที่ผู้วายชนม์สามารถข้ามฝั่งกลับมายังโลกคนเป็นได้อีกครั้ง แต่ตัวเอกของเรากลับต้องพลัดหลงไปอยู่ในโลกของคนตาย และต้องหาทางกลับมาให้ได้ก่อนรุ่งสาง มิฉะนั้นจะติดอยู่ในโลกคนตายไปตลอดกาล
 
แก่นสำคัญของเรื่องอยู่ที่ความเป็นครอบครัว รากเหง้าบรรพบุรุษ การไล่ตามความฝัน และวัฏจักรชีวิต เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ทั้งหมดนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นประเด็นโหลๆ ที่เห็นกันมาในหนังนักต่อนัก แต่ประเด็นง่าย ๆ แบบนี้แหละที่ถูกเล่าผ่านบทหนังที่หนักแน่น ค่อย ๆ ปูเรื่องราวและอารมณ์มาเรื่อย ๆ ที่ขมวดมาจนถึงบทสรุปในตอนท้ายได้อย่างลงตัวที่สุด
1033101-first-full-length-trailer-arrives-pixars-coco
หลาย ๆ คนบอกว่าไปดูมาแล้วร้องไห้หนักมาก ก็ขอยืนยันตามนั้นว่าไม่ได้เกินจริงแต่ประการใด ไม่แพ้ เผลอ ๆ อาจจะชนะ 10 นาทีแรกของ Up และ 10 นาทีสุดท้ายของ Toy Story 3 ด้วยซ้ำในคนที่อนิเมชันเรื่องนี้เข้าไปทำงานกับเขามาก ๆ
 
แน่นอว่า สำหรับเรา Coco มีผลกับข้างในของเราเยอะมาก อนิเมชันเรื่องนี้ทำให้เราได้ความหมายใหม่เกี่ยวกับความตายและคนจากไป เปลี่ยนความคิดและความตั้งใจของเราเกี่ยวกับงานเชงเม้งไปโดยสิ้นเชิง
 
สารภาพว่าก่อนหน้าที่จะได้ดู Coco เราตั้งใจว่าจะไม่ไปเชงเม้งอีกถ้าเป็นไปได้ แต่เวลา 1 ชั่วโมง 18 นาทีของอนิเมชันเรื่องนี้ มันทำให้เราเปลี่ยนใจ
 
อาฟเตอร์เอฟเฟกต์ของ Coco ยังคงอยู่กับเราจนถึงตอนนี้ เรายังคงไม่สามารถตั้งใจร้องเพลง ‘Remember Me‘ โดยไม่มีน้ำตาได้ และถึงจะไม่มีเพลงคลอ แค่นึกย้อนไปถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของหนัง มันก็ง่ายมากที่ทำให้ต่อมน้ำตาเริ่มทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ
 
Coco ไม่ได้เป็นแค่อนิเมชันแห่งปีสำหรับเรา แต่จะเป็นหนึ่งในอนิเมชันที่เป็นที่สุดในรอบหลายปีของเราไปอีกนาน
Coco-Movie-Banner
งานภาพที่จัดแสดงแสงเงาได้อย่างไร้ที่ติ งานออกแบบเครื่องแต่งกายและการประดับประดาหัวกะโหลกที่น่าตื่นตาตื่นใจ งานกราฟิกที่ทำให้กลีบดอกแมริโกลด์ทุกกลีบลอยพริ้วได้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้กระทั่งฉากบ่อน้ำที่โผล่มาไม่กี่นาทีในหนัง คลื่นน้ำก็ยิ่งดูสมจริงมากกว่าที่เคย ทั้งยังมีเพลงสไตล์เม็กซิกันที่ชวนให้ต้องขยับเท้าตามขับกล่อมอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แม้กระทั่งฉากเล่นกีต้าร์ นิ้วก็ไม่ได้ขยับมั่ว ๆ ! นี่คือความดีงามของงานโปรดักชันที่ค่อยๆ พัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 จนออกมาเป็นอนิเมชันเรื่องนี้ในปี 2017
 
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Coco จะได้รางวัลอนิเมชันยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์แน่นอน ส่วนเพลง ‘Remember Me‘ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องได้เข้าชิงสาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม
 
อาทิตย์หน้าก็วันพ่อแล้ว ถ้าหยุดยาวนี้ไม่ได้ไปไหน
ขอบอกเลยว่า Coco คือหนังที่เหมาะที่จะได้ดูพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวแล้วจริง ๆ
Coco-Pixar-datos

Leave a comment